เลิกเถอะคุณครู! ยึดของเล่นเด็กแล้วมาทำลาย

Photo by brother's photo from Pexels

เลิกเถอะคุณครู! กับการที่ยึดของเล่นเด็กนักเรียนเอามาทำลาย

ในชีวิตของครูโจโจ้ ก็เคยฝังใจกับการลงโทษแบบนี้ 

แม้ว่าจะไม่โดยตรงกับตัวเองก็ตาม

เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อสมัยเรียนอยู่ชั้น ป.5 

เพื่อนๆ ของครูโจโจ้สมัยนั้นรักการเล่นปิงปองเป็นชีวิตจิตใจ

แต่ก็ด้วยความเด็ก ก็อาจจะเล่นเพลินไป ยังควบคุมเวลาไม่เป็น 

ทำให้เข้าห้องเรียนสายบ้าง (ย้ำว่า "บ้าง" ไม่ใช่ทุกวัน) 

วันนั้นครูภาษาไทย และ เป็นครูประจำชั้นด้วย ไม่รู้ไปโกรธใครมา

พอขานชื่อนักเรียน พบว่าเพื่อนๆ กลุ่มนั้นยังไม่เข้าห้องเรียน 

ก็โกรธสุดขีด เป็นฟืนเป็นไฟ และบอกจะรอจนกว่าสามคนนี้เข้าห้อง

ไม่นาน ทั้งสามก็ยืนอยู่หน้าห้อง

ใบหน้าที่โชกไปด้วยเหงื่อ และเสื้อก็ชุ่มราวกับเดินฝ่าฝนมา

จะพูดว่า "ขออนุญาตเข้าห้องครับ" ยังไม่เป็นคำ 

เพราะเหนื่อยหอบกับการวิ่งมาจากโต๊ะปิงปองที่อยู่หน้าโรงเรียน

มาถึงอาคารเรียนที่อยู่จะเกือบประตูหลังโรงเรียน

หนำซั้ำห้องเรียนยังอยู่ที่ชั้น 3 อีก 

คุณครูคนดังกล่าวก็ทำหน้าถมึงทึง และสายตาที่จ้องหน้า

ที่สัมผัสได้ถึงความอาฆาตแค้น ราวกับหนังฆาตกรรม 

จากนั้นก็แผดเสียงดังๆ ว่า "พวกเธอไปไหนมา!"

เพื่อนๆ ที่นอกจากหอบแล้วก็เสียงสั่นเพิ่มไปอีก "ไปเล่นปิงปองมาครับ"

"พวกเธอรู้เวลาบ้างมั้ย นี่มันเลยมากี่นาทีแล้ว เอาไม้ปิงปองมาให้ฉัน!"

ทุกคนในห้องเงียบงัน และเข้าใจว่าครูคงจะยึดไว้ก่อน

แล้วแจ้งกับผู้ปกครองให้มารับคืน แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น 

ครูหยิบสองมือระหว่างปลายด้ามไม้ กับ ปลายด้านบน

แล้วเอามาหักกับเข่าของตัวเอง เหมือนกับหักกิ่งไม้

ไม้ปิงปองแยกออกเป็นสองท่อน 

ไม้ปิงปองยี่ห้อ Butterfly ของเพื่อนทั้งสามคน

ซึ่งสำหรับเด็ก ป.5 มันคือสิ่งที่ล้ำค่า

เราซึ่งไม่ใช่เจ้าของยังใจสลาย 

เพื่อนๆ คอตก น้ำตาคลอ เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะในห้องเรียน

เหตุการณ์วันนั้นผมยังจำขึ้นใจ และจำฝังใจ

ถ้าเป็นครู เราจะไม่ทำแบบนี้กับนักเรียน


แต่แล้วเมื่อมาเป็นครู เหตุการณ์แบบนี้ก็มีให้เห็นอีก

วันนั้น มีการอบรมนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถม - มัธยมปลาย

ในขณะวิทยากรอบรมอยู่นั้น ครูโจโจ้ก็มองเห็น

เด็ก ม.ต้น คนหนึ่ง ไม่ตั้งใจฟัง มัวแต่เล่นโยโย่ ณ ช่วงเวลานั้น

ด้วยความที่เราเป็นครู ม.ปลาย ก็อยากให้ครูที่รู้จักเขาเข้าไปเตือนดีกว่า

จึงแจ้งครู ม.ต้น คนหนึ่ง 

ปรากฏว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีก ครูยึดโยโย่เด็กแล้วหักครึ่ง

ใจครูโจโจ้แทบสลาย รู้แบบนี้ไปเตือนเองเสียดีกว่า 

และยังคงรู้สึกผิดที่ไปแจ้งครูคนนั้น


ในวัยเด็กของครูโจโจ้ก็เคยโดนยึดของเหมือนกัน

ตอนนั้นเรียนอยู่ ป.2 คุณแม่ซื้อหนังสือการ์ตูนโดเรม่อนให้

แล้วค่านิยมในห้องนั้นคืออ่านหนังสือการ์ตูนมาอวดกัน

แต่เราก็แบ่งปันกัน หรือ ยืมมาอ่านสลับกันที่บ้าน

วันหนึ่งก็เผลอหยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาในคาบเรียน

(จำไม่ได้ว่าวิชาอะไร)

ครูคนนั้นก็ริบหนังสือของเราไป แล้วก็บอกว่า

"เอามานี่ เดี๋ยวจะยึดไว้ให้ลูกครูอ่าน" 

แล้วหนังสือเล่มนั้นก็หายสาบสูญไปเลย 


เหล่านี้คือสิ่งที่ฝังใจคุณครูโจโจ้

คนที่ไม่เคยมีของเล่นที่เป็นของรัก จะเข้าใจอะไร

เพราะชีวิตของตัวเองไม่เคยได้รับสิ่งดีแบบนี้

จิตใจจึงหยาบกระด้างและกล้าทำลายของของคนอื่นได้

หรืออาจจะแฝงไปด้วยความริษยา เพราะวัยเด็กไม่เคยได้ ไม่เคยมี

จึงเป็นคนมีปมแล้วเอามาลงที่เด็กไม่รู้ความ 

นั่นคือสิ่งที่โกรธแค้นและคิดมาตลอดหลายปี 


แต่พอเราโตขึ้น เราก็มองมันใหม่

ครูที่ทำแบบนั้นอาจจะไม่ได้มีปมอะไร ไม่ได้ริษยา

แต่ครูคนนั้นมันไม่มีหัวใจ ขาดความรักเมตตาลูกศิษย์

เห็นการทำลายจิตใจผู้อื่น เป็นเรื่องสาแก่ใจ 

แทนที่จะยึดเพื่อปรับพฤติกรรมให้เกิดความสำนึก

จากนั้นก็สอนว่าสิ่งที่ควรทำคืออะไร

เมื่อเด็กสำนึก ก็คืนของๆ เขาคืนไปเสีย

เพราะของๆ เขา ไม่ใช่ของๆ เรา

เราไม่มีอำนาจ หรือ สิทธิใดๆ ที่จะครอบครอง

และไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะไปทำลายของๆ ผู้อื่น

เราไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังของสิ่งของนั้นๆ 

มีเรื่องราวอะไรที่เขาผูกพันมากๆ หรือเปล่า 


และสิ่งที่อยากจะบอกคือครูที่เห็นดีเห็นงามเรื่องแบบนี้อยู่

ควรพิจารณาตัวใหม่ว่าอาชีพครูยังเหมาะกับตัวเองอยู่หรือ?

************************************

ครูโจโจ้
🧡 www.krujojotalk.com ดติดตามได้ที่ด้านบนของ Blogger หรือช่องทางต่อไปนี้💙 www.facebook.com/krujojotalk
✍ สนใจเรียนภาษาอังกฤษ online ได้ที่ https://www.facebook.com/engkrujojo

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sport Day หรือ Sports Day?

Organizing : Topic, Supporting และ Concluding Sentences

Special Days in Thailand : วันหยุดของไทย ภาษาอังกฤษ