รีวิวสารคดีซีรี่ยส์เรื่อง The Trials of Gabriel Fernandez ในมุมมองบทบาทของครูและนักสังคมสงเคราะห์


"โศกอนาฏกรรมที่ทำให้ชุมชนลุกฮือ
ความบกพร่องที่เผยความอัปยศต่อระบบในท้องถิ่น"

Trial (n.) = การตัดสินดดีความ 

เพิ่งดูสารคดีซีรี่ยส์เรื่อง The Trials of Gabriel Fernandez จบครับ เป็นเรื่องที่ตีแผ่คดีการเสียชีวิตของเด็กอายุ 8 ขวบชื่อ Gabriel Fernandez โดยพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ ของเขาเอง ซึ่งภายหลังพบว่ามีการทารุณกรรมมาโดยตลอด จนวันหนึ่งก็ทำให้เด็กน้อยผู้น่าสงสารคนนี้เสียชีวิต แต่ว่าคดีนี้ทำให้สาวไปถึงความบกพร่องของหน่วยงานรัฐบาล นักสังคมสงเคราะห์ต่างๆ เนื่องจากคดีนี้เป็นดคีสะเทือนขวัญมากๆ เกิดขี้นที่เขตๆ หนึ่งใน LA รวมถึงพบว่าเป็นปัญหาการเหยียดเพศในพื้นที่นั้นอีกด้วย 

สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้คือการทำงานของครูที่นั่น เนื่องจากคุณครูได้เห็นสิ่งผิดปรกติทางร่างกายของ Gabriel เช่นมีแผลฟกช้ำ ถูกกล้อนผม ฟันหลอ ปากแตก เป็นต้น พอครูประจำชั้นเรียกมาสอบถาม เด็กก็บอกว่า แม่เอาบีบีกันยิง ครูได้ยินแบบนั้นจึงตัดสินใจโทรแจ้งนักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งนักสังคมสงเคราะห์ต้องไปหาที่บ้านเพื่อสอบสวน หากพบว่าเด็กไม่ปลอดภัย จะต้องให้เด็กออกมาจากที่นั่นทันที แต่ปัญหาคือนักสังคมสงเคราะห์ที่นั่นบกพร่องต่อหน้าที่ ไปเฉยๆ ไม่ได้สอบสวนอะไรมากนัก ทำให้เด็กยิ่งโดนทำร้ายมากไปกว่าเดิม ซึ่งสุดท้ายโดนดำเนินคดีหมด เพราะหลักฐานเกิดจากที่คุณครูแจ้งและมีการบันทึกไว้ 

ผมรู้สึกชอบระบบนี้นะ คือมีนักสังคมสงเคราะห์ช่วย ครูไม่ต้องไปหาถึงที่บ้าน ไปเสี่ยงอันตราย ถึงแม้ว่าในคดีนี้พบว่านักสังคมสงเคราะห์บกพร่องต่อหน้าที่ แต่ก็เป็นปัญหาของเขตนั้น เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งที่อื่นไม่มีปัญหาและมีระบบที่ดีกว่าด้วยซ้ำ 

มองกลับมา ถ้าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นในบ้านเรา เราแทบไม่คิดถึงนักสงคมสงเคราะห์เลย หรือว่าเราไม่มีระบบนี้ ซึ่งถ้าไม่มี ก็ควรมีนะผมว่า หรือถ้ามีอยู่แล้วก็ควรจะมีการประสานงานกับสถานศึกษาให้มากกว่านี้  ในสารดคีเรื่องนี้ครูคือส่วนสำคัญของหลักฐานการที่เด็กโดนทำร้าย ในวันสุดท้ายครูกล่าวในชั้นศาลด้วยน้ำตาว่าเธอจะเว้นเลขที่ 28 ซึ่งเป็นเลขที่ของ Gabriel ไว้ เพื่อระลึกถึงเขาตลอดไป
นอกจากนี้ได้เห็นกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล การตัดสินจากคณะลูกขุน ซึ่งมีลุงคนหนึ่งที่เห็นต่างอยู่คนเดียว แต่แกก็มีเหตุผลของแกนะ ทำให้ได้มุมมองการตัดสินใจที่เหนือกว่าอารมณ์ในอีกมุมหนึ่ง (ในระบบอเมริกาจะมีขณะลูกขุนเป็นประชาชนทั่วไปจากต่างสาขาอาชีพ หลากหลายเชื้อชาติ เพศ อายุ มาร่วมตัดสิน) 

สุดท้ายสิ่งที่ช็อคยิ่งกว่าในตอนจบ คือไม่นานหลังจากนั้นเกิดคดีแบบนี้ซ้ำอีก ซึ่งมีองค์ประกอบคล้ายๆ กันอย่างเหลือเชื่อ หดหู่ไปอีก


ครูโจโจ้


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sport Day หรือ Sports Day?

Organizing : Topic, Supporting และ Concluding Sentences

Special Days in Thailand : วันหยุดของไทย ภาษาอังกฤษ