รีวิว Applications ที่ดีต่อการใช้จดบันทึกกับปากกา



ด้วยความที่ปกติใช้ Samsung ที่มีปากกามาตลอด และ Samsung เองก็มี app ที่เอาไว้เขียนอยู่แล้ว เลยไม่เคยใช้ app อื่นเลย พอครั้งนี้เปลี่ยนมาใช้ Huawei ก็เลยต้องหา app มาเขียนกับปากกา (app ของ Huawei ไม่ work เลย) ก็พบ 3 apps ดังต่อไปนี้

1. LectureNotes ต้องยกให้เป็นอันดับหนึ่งเลยเพราะลูกเล่นเพียบจริงๆ อย่างแรกคือเราสามารถสร้างปกได้หลากสีตามที่ต้องการ รวมถึงสีของแผ่นกระดาษ ซึ่งบางทีอาจจะยุ่งยากไปสำหรับคนที่เร่งรีบ ซึ่งตัว app เองก็จะมีให้เลือกนั่นก็คือ Quick notes เพื่อให้เราใช้จดก่อนแล้วค่อยแก้ไขปกหรือลายเส้นกระดาษทีหลังได้ สามารถสร้าง folder เพื่อจัดกลุ่มสมุดของเราได้ นำเข้าและส่งออกเป็น PDF ได้ โดยที่ราคาแบบ Pro จะอยู่ที่ราคา 225 บาท คือครบครันเรื่องการเขียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัว app ยังมี extensions เสริมหากผู้ใช้ต้องการลูกเล่นเพิ่มอย่างเช่น LecturePresentations เพื่อ screecast นำเสนอการ lecture ของเรา (ราคา 53 บาท) LectureVideos ก็เอาไว้บันทึกการ lecture และเสียงของเรา (ราคา 71.00) ซึ่งแนะนำว่าถ้าหากมี app บันทึกหน้าจออยู่แล้วก็ไม่จำเป็น และ LectureRecodings เพื่ออัดเสียงเราในขณะที่เรา lecture (ราคา 71 บาท) ซึ่งก็คิดว่าซ้ำซ้อนกับตัว extension ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีข้อจำกัดของ app นี้ก็คือปากกามีแบบเดียวให้เลือก ต่างกันแค่ขนาดของเส้นที่เราจะใช้ และไม่ตอบสนองต่อการกดน้ำหนักของปากกา 
2. INKredible Pro อันนี้ปากกา Fountain Pen เขียนสวยมาก แน่นอน ถ้ามีคำว่า Pro คือต้องซื้อมา ซึ่ง app นี้มีราคา 250 บาท ซื้อขาด ใช้ได้ทุก function มีปากการให้เลือใช้ สามารถนำ PDF ไฟล์มาเขียนได้ หรือตกแต่งรูปภาพได้ ตัวหนังสือสามารถเปลี่ยนเป็นแบบขอบด้านนอกได้ สามารถนำรูปเข้ามาตกแต่งแล้วแปลงไฟล์ให้เป็นรูปภาพโดยที่มีไม่ background ด้านหลังได้ แต่ไม่มีปกสมุดให้เลือกสำหรับโน๊ตที่เราเขียน และไม่ตอบสนองกับปุ่มของปากกา เวลาจะเปลี่ยนเป็นยางลบ ก็ต้องไปจิ้มที่เมนู อย่างไรก็ดีระบบก็มีการฟังชันการใช้คือ ให้ก็วาดเป็นวงกลมรอบเส้นที่เราต้องการจะแก้ไข แล้วจากนั้นก็จะมีให้เราเลือกลบหรือว่าจะเปลี่ยนเส้นเป็นแบบขอบนอก โดยรวมแล้วถือว่ามีลูกเล่นในการใช้งานพอสมควร ติวเตอร์ที่จะใช้สอนผ่าน PDF ไฟล์ก็ต้องแนะนำว่า app นี้ใช้ดีครับ

(รูปภาพที่เป็น cover ของบทความนี้ก็ใช้เขียนโดย INkredible Pro แล้วก็แชร์ไฟล์เป็นรูปภาพครับ)



3. Bamboo Paper เป็น app ที่มีส่วนคล้ายกับ Samsung Notes มาก แต่ดีกว่าเรื่องน้ำหนักของเส้นปากกาที่แสดง และการตอบสนองต่อปากกาที่ใช้อยู่ด้วย กดปุ่มก็กลายเป็นยางลบและกลับมาเป็นปากกาเขียนต่อได้ ใน app มีหัวที่ให้ซื้อเพิ่มหากต้องการเพียง 32 บาท เช่น ดินสอน สีเทียน และชนิดของปกและลายเส้นกระดาษตามประเภทที่จะใช้งานด้วย (ซื้อมาทุกอย่างแล้ว โดยรวมก็ประมาณร้อยกว่าบาท) ข้อดีคือเป็น app ที่ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน คือเหมือนใช้งานสมุดจดธรรมดาทั่วไป เหมาะสำหรับการเขียน idea หรือสเก็ตช์ภาพดินสอ (เหมือนจริงมากๆ) ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดของคนที่ต้องการลูกเล่นเยอะๆ และที่สำคัญสำหรับข้อจำกัดคือ ไม่สามารถนำ PDF ไฟล์มาเขียนในนี้ได้ และก็ไม่สามารถแปลงไฟล์เป็น PDF ได้ (แต่สามาถแปลงไฟล์เป็นรูปภาพได้)
4. Google Keeps สำหรับ app นีข้อดีของมัน คือ Free! แบบ 100% โหลดง่าย ใช้ง่าย และซิงค์เร็ว ถ้าใครมี Google Keeps ติดตั้งไว้ในมือถือด้วย จะช่วยให้สะดวกในการดูข้อมูลที่ซิงค์หากันอย่างง่ายดาย มีระบบที่แกะตัวหนังสือที่เราบันทึกแล้วแปลเป็นตัวพิมพ์ได้ (เฉพาะภาษาอังกฤษ) และที่สำคัญคือตอบสนองต่อตัวปากกาด้วย คือกดปุ่มก็กลายเป็นยางลบ และเมื่อปล่อยก็กลับมาเป็นปากกาเหมือนเดิม เขียนสะดวกไม่ต้องจิ้มปากกาไปมา แต่หัวปากกาและลูกเล่นอาจจะไม่หลากหลาย และการเขียนจะไม่ได้เหมือนสมุดจริงๆ เพราะจะเป็นการเขียนแบบยาวลงมาได้เรื่อยๆ แต่จะเป็นกระดาษที่ยาวต่อกัน ไม่ได้เป็นหน้าๆ แบบ app ที่กล่าวก่อนหนัานี้ เวลากลับมาดูอาจจะดูยากนิดนึง คงต้องใช้เวลาซักระยะก็คงจะชิน อย่างไรก็ดี app ไม่ตอบสนองต่อการกดน้ำหนักของปากกา แต่กลายเป็นว่าตอบสนองความเร็วของการเขียนปากกาแทน ถ้าเราขีดเส้นเร็วมากขนาดเส้นก็จะใหญ่ แต่ถ้าใช้ความเร็วปกติเส้นก็จะมีขนาดเท่ากัน และถึงแม้จะมีเส้นกระดาษให้เลือกในการเขียน แต่เมื่อบันทึกก็จะกลายเป็นพื้นขาวธรรดาไม่มีเส้นใดๆ สามารถแปลงไฟล์เป็นรูปภาพได้ แต่ไม่สามารถเป็น PDF ได้


5. Microsoft OneNote เป็นอีก app หนึ่งที่มีคนแนะนำมา และเมื่อได้ลองใช้ดูแล้วก็ถือว่าเป็น app ที่ดีเลยทีเดียว ลักษณะการใช้จะคล้ายกับ Google Keeps คือกระดาษสามารถขยายได้เรื่อยๆ และสามารถขยายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน (ของ Google Keeps จะขยายได้เฉพาะแนวตั้ง) ก็จะได้กระดาษที่ขนาดใหญ่มากๆ และสามารถบันทึกข้อมูลได้ครบถ้วนในหน้าเดียว มากไปกว่านั้นระบบการจัดการของหนังสือดีมาก (แต่อาจจะยุ่งยากหน่อยสำหรับมือใหม่) คือต้องใช้ account ของ Microsoft เพื่อจะ link สู่ OneDrive ของระบบ เพียงแต่ว่าระบบไม่ตอบสนองต่อปากกาที่ใช้อยู่จึงยกให้เป็นอันดับ 4 รองจาก Google Keeps เท่านั้น (เชื่อว่าถ้าใช้ Surface จะตอบสนองได้ดีมาก และประสิทธิภาพเหนือกว่า Google Keeps แน่นอน)

เพิ่มเติมอีก app คือ Squid ซึ่งเป็น app ที่ดีมากๆ เหมาะสำหรับงานเขียน (แต่งานวาดไม่เท่าไหร่) ที่มีลูกเล่นมากมาย แต่ full version ต้องจ่ายแบบรายเดือน เพียงเดือนละ 35 บาท ถ้ารายปีเหมาไปเลย 350 บาทต่อปี แต่คิดว่าถ้าใช้มาเพื่อเขียนอย่างเดียวก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ app ที่จ่ายทุกเดือนหรือทุกปีขนาดนั้น แต่ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับ

ป.ล. หากใครมี app อะไรแนะนำคอมเมนต์เพื่อมาแชร์กันได้นะครับ

ครูโจโจ้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sport Day หรือ Sports Day?

Organizing : Topic, Supporting และ Concluding Sentences

Special Days in Thailand : วันหยุดของไทย ภาษาอังกฤษ